หลักการใช้อักษรพิมพ์ใหญ่ในภาษาอังกฤษ

ภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันประกอบด้วยตัวอักษรทั้งหมด 26 ตัวในระบบที่เราเรียกว่า English alphabet ซึ่งทุกคนคงน่าจะคุ้นเคยกันดีและพบเห็นได้บ่อย ๆ ในชีวิตประจำวันเพราะภาษาอังกฤษนั้นเป็นภาษาสากลอันดับต้น ๆ ของโลก แม้ว่าภาษาอังกฤษจะมีตัวอักษรง่าย ๆ เพียง 26 ตัว แต่ว่าตัวอักษรเหล่านี้ยังมีการแบ่งออกเป็นตัวเล็ก/ตัวใหญ่ หรือที่เรียกกันว่าตัวพิมพ์/ตัวเขียน ซึ่งก็มีลักษณะหน้าตาที่ไม่ได้แตกต่างกันมากนัก แต่ว่าในภาษาอังกฤษก็จะมีกฎการใช้งานตัวพิมพ์เล็ก-พิมพ์ใหญ่ ว่าตัวอักษรแบบไหนจะใช้กับสถานการณ์แบบไหน และในวันนี้เราจะมาดูในเรื่องหลักการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่ หรือที่เรียกในภาษาอังกฤษว่า “Capitalization” (จากคำว่า “capital” letters ที่แปลว่าตัวอักษรพิมพ์ใหญ่)

ในการเขียนภาษาอังกฤษ คำบางคำจะต้องมีตัวอักษรพิมพ์ใหญ่นำหน้า และการใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่อย่างถูกต้องหรือถูกตำแหน่งจะทำให้เราเป็นนักเขียนที่ดีได้ นี่ถือเป็นเรื่องพื้นฐานเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม

แล้วตัวอักษรพิมพ์ใหญ่จะใช้กับอะไรบ้างล่ะ?

คำแรกหรือคำขึ้นต้นประโยค

เช่น Where are you going? (คุณกำลังจะไปไหน?), My name is Tiffany. (ฉันชื่อทิฟฟานี่), Thailand is the land of smile. (ประเทศไทยคือดินแดนแห่งรอยยิ้ม)

ชื่อเฉพาะของสถานที่ คน รวมไปถึงชื่อสิ่งของที่เป็นแบรนด์หรือยี่ห้อด้วย

เช่น   Bangkok (กรุงเทพ), James (เจมส์), Samsung (ซัมซุง)

ชื่อวัน เดือน และวันสำคัญ/วันหยุดเทศกาลต่าง ๆ

เช่น         Sunday (วันอาทิตย์), January (เดือนมกราคม), Christmas (วันคริสต์มาส)

ชื่อภาษา

เช่น         Thai (ภาษาไทย), English (ภาษาอังกฤษ), Japanese (ภาษาญี่ปุ่น)

 คำนำหน้าชื่อ

เช่น         Mr. (นาย), Mrs. (นาง), Dr. (ด็อกเตอร์)

 สัญชาติ

เช่น         Korean (ชาวเกาหลี), Chinese (ชาวจีน), American (ชาวอเมริกัน)

 ชื่อเฉพาะอื่น ๆ อย่างชื่อภาพยนตร์ ละคร หนังสือ การ์ตูน เกม

เช่น Star Trek, The Walking Dead, The Lost Symbol, Attack on Titan, Realm of Valor (RoV)

 และอย่าลืม คำที่ใช้บ่อยมากที่สุดอย่าง I ที่แปลว่า ฉัน/ผม/ข้าพเจ้า/หนู  ต้องใช้ตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เสมอ

I will always be what I am. (ฉันจะเป็นตัวของตัวเองเสมอ)

Leave a comment